Modern Trade คืออะไร
- By สิชา อารีสินพิทักษ์
Modern Trade คืออะไร?
Modern Trade หรือการค้าปลีกสมัยใหม่ หมายถึง ระบบการค้าขายปลีกแบบใหม่ที่เน้นความสะดวกสบายของผู้บริโภค มีการจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นการขายปลีกในปริมาณมาก โดยผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า คอนวีเนียนสโตร์ และร้านค้าปลีกขนาดใหญ่อื่นๆ
Modern Trade ภาษาไทยใช้คำว่าธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ในเล่มนี้ จะเรียกย่อๆ ว่า MT
MT จะเอาระบบและเทคโนโลยี มาช่วยในการดำเนินงาน เช่น การบริหารสินค้าคงคลัง การบริหารผลิตภัณฑ์ และการบริหารระบบการจัดจำหน่าย เป็นต้น
เราจะขอแบ่งย่อยลงไปอีกตาม Positioning และ Busket size
ประเภทของ Modern Trade มีอะไรบ้าง ?
- ห้างสรรพสินค้า (Department Store) เป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่มีจำหน่ายสินค้าคุณภาพแบบครบวงจร สินค้าแบรนด์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงมีโรงภาพยนตร์ เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการ เช่น Central, Robinson, The Mall
- ไฮเปอร์มาร์เก็ต (Hypermarket) ร้านค้าปลีกที่รวมห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต เข้าด้วยกัน มีสินค้าหลากหลายประเภททั้งของใช้อุปโภคบริโภคในครัวเรือน เน้นขายสินค้าในราคาถูก และในประเทศไทยมีอยู่ 2 ราย ได้แก่ Lotus’s และ Big C
- ซูเปอร์มาร์เก็ต (Supermarket) จะมีขนาดรองลงมาจาก และมีการขายสินค้าหลากหลายน้อยกว่า Hypermarket ส่วนใหญ่จะอยู่ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้า เช่น Tops, Max Value, Villa Market, Home Fresh Mart
- ร้านสะดวกซื้อ (Convenience Store) หรือที่หลาย ๆ คนชอบเรียกว่า มินิมาร์ท จะตั้งอยู่ใกล้บ้าน หรือแหล่งชุมชนที่มีผู้คนอาศัยจำนวนมาก จำหน่ายสินค้าทั่วไปหาซื้อง่าย สินค้าขนาดเล็กพกพาง่าย ของใช้จำเป็นที่ต้องการใช้แบบเร่งด่วน เช่น 7-11, Lotus Express, 108 Shop, Family Mart, Jiffy, CJ Express, Big-C Mini
- ร้านค้าขายสินค้าเฉพาะทาง (Specialty Stores) เป็นธุรกิจค้าปลีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นขายกลุ่มสินค้าเฉพาะเจาะจงไปในแต่ละประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น เช่น Watsons, Boots Eveandboy, Beautrium, Sephora ที่เน้นขายเวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอาง
- ตลาดสดและร้านค้าส่ง (Cash and Carry) เน้นขายสินค้าในปริมาณมาก ๆ จำนวนเยอะเป็นแพ็ก ลักษณะการค้าส่ง ส่วนใหญ่มักขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านขายของชำ เช่น Makro และ Go Wholesale
สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่กำลังคิดว่าการนำสินค้าเข้าขายใน Modern Trade เป็นเรื่องที่ยากแต่ถ้าเรารู้เทคนิค และเตรียมตัวให้พร้อมรับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิด
อาอี๊ เอนเทอร์ไพรซ์ ให้บริการดูแลแบบครบวงจรที่จะสามารถพาสินค้าของท่านเข้าไปสู่ใน ตลาด Modern Trade ได้อย่างง่ายดาย
สร้างแบรนด์ ปรึกษาฟรี โทร : 062 429 9939 คุณโบลิ่ง
ลักษณะเด่นของ Modern Trade
- ขนาดใหญ่: มีสาขาจำนวนมาก ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง
- หลากหลายสินค้า: มีสินค้าให้เลือกมากมาย ครอบคลุมทุกหมวดหมู่
- ราคาสม่ำเสมอ: ราคาสินค้าค่อนข้างคงที่ และมีโปรโมชั่นเป็นประจำ
- ระบบจัดการสินค้าที่มีประสิทธิภาพ: ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง
- เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง: ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้า
- มีแบรนด์ของตัวเอง: หลายแห่งมีแบรนด์สินค้าของตัวเองเพื่อสร้างความแตกต่าง
ทำไมต้อง Modern Trade?
- เข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก: สามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม
- สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก: การวางสินค้าใน Modern Trade ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
- กระจายสินค้าได้รวดเร็ว: มีระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัย
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า: การอยู่ใน Modern Trade ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพของสินค้า
ข้อดีและข้อเสียของ Modern Trade
ข้อดี | ข้อเสีย |
เข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก | การแข่งขันสูง |
สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก | มีค่าใช้จ่ายในการเข้าช่องทาง |
กระจายสินค้าได้รวดเร็ว | ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด |
สร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า | การเจรจาต่อรองกับผู้จัดซื้อค่อนข้างยาก |
การนำสินค้าเข้าสู่ Modern Trade
เตรียมความพร้อมของสินค้า: สินค้าต้องมีคุณภาพมาตรฐาน บรรจุภัณฑ์สวยงาม และเอกสารครบถ้วน
ศึกษาข้อมูลและช่องทางการติดต่อ: ศึกษาข้อมูลของแต่ละช่องทาง และติดต่อผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ
สมัครเป็นคู่ค้า: กรอกใบสมัครและนำเสนอสินค้า
รอการพิจารณา: รอการประเมินและเจรจา
เซ็นสัญญาและเริ่มจำหน่าย: เมื่อตกลงกันได้ทั้งสองฝ่าย ก็จะเริ่มกระบวนการจำหน่ายสินค้า
เคล็ดลับในการประสบความสำเร็จใน Modern Trade
สร้างความแตกต่าง: ทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง
เตรียมพร้อมรับมือกับการแข่งขัน: มีแผนการตลาดที่ดี
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จัดซื้อ: สร้างความสัมพันธ์ที่ดีเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาo
ปรับปรุงสินค้าอย่างต่อเนื่อง: พัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด